AI Technology

MarTech

06.10.2025

AI ทำให้การตลาดฉลาดขึ้นได้จริงไหม? 5 เทรนด์ตอบโจทย์ปี 2026

ในยุคที่เทคโนโลยี AI กำลังกลายเป็นหัวใจของทุกกลยุทธ์การตลาด แบรนด์และนักการตลาดต่างต้องปรับวิธีคิดจาก “ทำคอนเทนต์” เป็น “ออกแบบประสบการณ์” ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและเทคโนโลยีอัจฉริยะ เทรนด์การตลาดยุค AI จึงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของเครื่องมือใหม่ ๆ แต่คือการเปลี่ยนมุมมองทั้งหมดต่อผู้บริโภค ตั้งแต่การค้นหา ไปจนถึงการตัดสินใจซื้อและกลับมาซื้อซ้ำ

หนึ่งในเทรนด์ที่เห็นชัดคือ Phygital Retail การผสมผสานระหว่างโลกออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ร้านค้าที่ให้ลูกค้าทดลองสินค้าจริงก่อนแล้วใช้คูปองส่วนลดออนไลน์ หรือแบรนด์ออนไลน์ที่เปิด Pop-up Store ชั่วคราวเพื่อสร้างประสบการณ์จริง สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกถึงความสะดวกและความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ในขณะเดียวกันแบรนด์เองก็ได้ข้อมูล Insight เพื่อบริหารสต็อกและโปรโมชันอย่างแม่นยำ

ต่อมาคือแนวคิด Customer Journey Mapping ที่เปลี่ยนจากการมองลูกค้าแบบเส้นตรงมาเป็น “วงจรประสบการณ์” ที่ต้องเข้าใจทุกจุดสัมผัส ตั้งแต่ Awareness ที่ผู้บริโภครับรู้และสนใจ ไปจนถึง Retention ที่สร้างความผูกพันและการซื้อซ้ำ นักการตลาดยุค AI ต้องใช้ข้อมูลจากทุกช่องทาง เช่น เว็บไซต์ แชทบอต หรือระบบ CRM เพื่อปรับกลยุทธ์ให้เหมาะกับพฤติกรรมในแต่ละช่วงของลูกค้า

ในฝั่งธุรกิจ B2B หรือสินค้าที่มี Sale Cycle ยาว ระบบ CRM Sale Pipeline กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ทีมขายเข้าใจเส้นทางลูกค้าได้แบบ End-to-End ตั้งแต่การสร้าง Awareness ผ่านแคมเปญโฆษณา ไปจนถึงการปิดการขาย (Close Deal) ด้วยข้อมูลที่อัปเดตแบบเรียลไทม์ การเชื่อมต่อ AI เข้ากับ CRM ยังช่วยวิเคราะห์ Lead คุณภาพและคาดการณ์ยอดขายได้อย่างแม่นยำขึ้น

อีกเทรนด์สำคัญคือ การสร้างคอนเทนต์ในยุค AI-Powered Search Engine ที่โลกของการเสิร์ชไม่ได้ขึ้นกับ Keyword อีกต่อไป แต่ขับเคลื่อนด้วย “Intent” หรือความตั้งใจของผู้ใช้ นักการตลาดต้องเข้าใจคำถามต่อเนื่อง (Follow-up questions) ของผู้บริโภคและตอบให้ครบวงจรในบทความเดียว SEO ยังคงสำคัญ แต่ต้องอิงคุณภาพของข้อมูลมากกว่าการเล่นคำ นอกจากนี้เครื่องมืออย่าง Social Listening และ Social Media Scheduler เช่น FeedHive หรือ ChatGPT Integration ก็เข้ามาช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในด้าน Personalization ผู้บริโภคคาดหวังว่าทุกแบรนด์จะเข้าใจพวกเขาโดยไม่ต้องถามซ้ำ การเก็บข้อมูลแบบดิจิทัลจึงกลายเป็นรากฐานของการตลาดยุคใหม่ ทั้งการจองสินค้า การแชทพูดคุย หรือระบบสะสมแต้ม Loyalty Program ล้วนเป็นจุดข้อมูลที่สามารถนำมาใช้ต่อยอดให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์เฉพาะตัวที่ตรงใจมากขึ้น

อีกมิติที่เริ่มขยายตัวคือ Agentic AI หรือ AI ที่สามารถทำงานแบบอัตโนมัติหลายขั้นตอนด้วยตัวเอง เช่น การผสาน Input จากผู้ใช้ ผ่าน LLM และเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ครบวงจรโดยไม่ต้องรอคำสั่งซ้ำ ๆ โมเดลแบบนี้ช่วยย่นเวลาในการทำงานทางการตลาด ตั้งแต่การวิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงการสร้างแคมเปญและออกแบบคอนเทนต์ได้อย่างชาญฉลาด

ทั้งหมดนี้เชื่อมโยงกับ Marketing Operation ยุคใหม่ ที่ต้องจัดการข้อมูลลูกค้าจากหลากหลายแหล่ง ทั้ง Spreadsheets, SaaS อย่าง HubSpot หรือ Salesforce และระบบ Cloud Data Warehouse เช่น BigQuery หรือ Redshift เพื่อให้การตัดสินใจขับเคลื่อนด้วยข้อมูลจริง ขณะเดียวกัน นักการตลาดยังต้องเข้าใจ Framework อย่าง “PESTAL Analytics” เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยรอบด้านทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม และกฎหมาย ซึ่งมีผลโดยตรงต่อกลยุทธ์

สุดท้าย เครื่องมือ AI for Marketing จะกลายเป็นพื้นฐานที่ทุกองค์กรต้องมี ตั้งแต่ Generative AI อย่าง Midjourney หรือ Google AI Studio สำหรับสร้างคอนเทนต์ ไปจนถึงระบบ Automation เช่น Make หรือ n8n ที่ต่อ Workflow ให้งานไหลลื่น และ Agentic AI อย่าง Manus หรือ ChatGPT Agent Mode ที่ทำให้การตลาดก้าวสู่ระดับ “อัตโนมัติเต็มรูปแบบ”

โลกของการตลาดในปี 2026 จะไม่ใช่การแข่งกันที่ใครสร้างคอนเทนต์ได้เยอะกว่าอีกต่อไป แต่คือการแข่งกันที่ใคร “เข้าใจลูกค้าได้ลึกกว่า” และ “ทำให้ AI เข้าใจลูกค้าแทนเราได้ดีกว่า” — นั่นคือหัวใจของการตลาดในยุค AI x MarTech อย่างแท้จริง

ผู้เขียน: ก้องปพัฒน์ กำจรจรุงวิทย์

RECOMMEND