JRIT ICHI

ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน นักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวก และใช้ชีวิตร่วมกับสังคมอย่างเท่าเทียมแก่ผู้พิการมาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเข้าสู่ยุค AI เทคโนโลยีหลายอย่างสามารถนำพาผู้พิการเข้าสู่ความเสมอภาคมากขึ้น ดังตัวอย่างที่นำมาเสนอนี้

Braille Farm ชุดปลูกผักไฮโดรโปนิกส์อัจฉริยะ สร้างอาชีพคนตาบอดอย่างยั่งยืน
จะเห็นว่าอาชีพของผู้พิการทางสายตามักเป็นขายลอตเตอร์รี่ หรือร้องเพลงแลกสินน้ำใจเป็นหลัก แต่ถ้านำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ให้ตรงกับบริบทของเขา จะสามารถสร้างอาชีพได้อย่างยั่งยืน เช่น Braille Farm ชุดปลูกผักไฮโดรโปนิกส์อัจฉริยะ ที่พัฒนาโดย ธนบดี วิฑูรเจตนันท์ นักเรียนไทยจากโรงเรียนนานาชาติ ISB สำหรับการทำงานของชุดปลูกผักนี้ ใช้ระบบไฟฟ้าแรงดันต่ำเพียง 12 โวลต์ พร้อมกับใช้เซ็นเซอร์ที่เป็นดิจิทัลในการตรวจวัดค่าต่าง ๆ แจ้งรายการทั้งเสียงพูด และสัญญาณเสียง ส่งผลให้ผู้พิการทางสายตาทำงานได้สะดวก ปลอดภัย แม้มองไม่เห็นผักก็ตาม ทำให้เกิดอาชีพที่ยั่งยืน และมีความภาคภูมิใจ ปัจจุบันนวัตกรรมนี้ได้นำไปลดลองกับโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพฯ, ศูนย์พัฒนาอาชีพคนตาบอด นนทบุรี ซึ่งได้ผลเป็นอย่างดี

เทคโนโลยีเพื่อการท่องเที่ยวอย่างเท่าเทียม
เป็นเทคโนโลยีที่นำ AI ผนวกกับวีลแชร์ และจัดการการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล รูปแบบการทำงานของมัน คือ เป็นแพลตฟอร์มที่ผู้พิการสามารถกรอกข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองลงไป ได้แก่ สภาพร่างกาย, ความต้องการช่วยเหลือพิเศษ, ระยะเวลาเดินทาง ตลอดจนงบประมาณ แล้วระบบก็จะสร้างทริปท่องเที่ยวที่เหมาะสมให้มา นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงข้อมูลกับวีลแชร์อัจฉริยะ เพื่อเอื้ออำนวยให้ผู้พิการได้ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ลงตัวอีกด้วย นวัตกรรมนี้เป็นการร่วมมือจากนักวิจัยหลากหลายมหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, มหาวิทยาลัยสุรนารี, มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี, มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ และ Universiti Sultan Zainal Abidin ประเทศมาเลเซีย สำหรับผู้ให้ทุนสนับสนุนคือ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)

Glide ไม้เท้า AI เพื่อคนตาบอด
ข้ามทวีปไปทำความรู้จักนวัตกรรมจากประเทศสหรัฐอเมริกา กันบ้าง เจ้า Glide เป็นการยกระดับไม้เท้านำทางของผู้พิการทางสายตา ด้วยเอไอ Glide พัฒนาโดย Glidance บริษัทสตาร์ทอัพจากซีแอตเทิล ลักษณะของมันเป็นไม้เท้าติดล้อ ด้ามสามารถปรับความยาวได้ ที่จับมีปุ่มควบคุมและระบบตอบรับแบบสัมผัส นอกจากนี้ความพิเศษของมัน คือ มีกล้อง มีระบบนำทางด้วย GPS ติดตั้งลำโพงคอยบอกทิศทาง และระบบแจ้งเตือนระดับพื้นถนนเพื่อให้ผู้ใช้ระวังตัว ชนิดที่ว่า เบื้องหน้าคืออะไร สิ่งขีดขวางเป็นอะไร เช่นประตูลักษณะไหน และบอกได้ว่าข้างหน้าเป็นทางม้าลาย เป็นต้น ปัจจุบัน Glide ยังอยู่ในช่วงพัฒนา และราคายังสูงมาก แต่เชื่อว่าในอนาคตจะเข้าถึงผู้พิการทางสายตาได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน

ปัจจุบันเทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI ส่งเสริมให้ผู้พิการใช้ชีวิตร่วมกับสังคมได้สะดวกมากขึ้น ในทางกลับกันก็มีกลุ่มผู้ไม่หวังดี นำ AI มาแปลงตัวเองเป็นผู้พิการ เพื่อหลอกลวงให้ผู้คนสงสารและบริจาคเงินให้ เช่น ใช้เอไอตัดต่อให้ตัวเองแขนขาขาด เป็นต้น ฉะนั้นจึงต้องไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน

———————————————————————————————–
อ้างอิง
https://siamrath.co.th/contents/103640
https://bossmagazines.com/?p=13346
https://www.siamsport.co.th/news/pr/93960/
https://www.tnnthailand.com/tech/214427/
https://www.vietnam.vn/th/dung-ai-gia-nguoi-khuyet-tat-de-truc-loi-canh-giac-chieu-lua-moi