JRIT ICHI

เพราะบุคลากร คือ ทรัพยากรที่สำคัญ ดังนั้นในทุกองค์กรจึงต้องมีการบริหารทรัพยากรมนุษย์อย่างมีคุณภาพ เพื่อให้พนักงานใช้ความสามารถของเขาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จ

ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (Human Resources หรือ HR) จึงมีหน้าที่สรรหาบุคลากร บริหารค่าตอบแทน พัฒนาพนักงาน วางแผนกำลังคน จัดการเรื่องกฎหมายแรงงาน สร้างวัฒนธรรมองค์กร ไปจนถึงสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงาน ฯลฯ จากหน้าที่ที่กล่าวมา เห็นได้ว่า HR มีความซับซ้อนอยู่ในตัว ไม่ใช่แค่เรื่องของการทำจ่ายเงินเดือน และรับสมัครคนเข้ามาทำงานเท่านั้น

และเมื่อบุคลากรเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ฝ่าย HR จึงมีความสำคัญต่อองค์กรอย่างมาก บทความนี้ทีมงานได้รับโอกาส สัมภาษณ์ คุณจุติพันธุ์ มงคลสุธี CEO บริษัท โกไฟว์ จำกัด บริษัทชั้นนำผู้พัฒนาเทคโนโลยี และแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง

HR Tech คืออะไร
HR Tech ย่อมาจาก Human Resources Technology คือ การนำเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในงานบริหารทรัพยากรบุคคล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดขั้นตอนที่ซับซ้อน และสนับสนุนการตัดสินใจที่ดียิ่งขึ้น

Gofive ผู้นำด้าน HR Tech
โกไฟว์ (Gofive) นิยามตัวเองว่าเป็น Tech Company ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ.2018 ด้วยความมุ่งหวังที่จะพัฒนาโซลูชั่นมาแก้ไขปัญหาที่องค์กรต่าง ๆ เผชิญอยู่ และช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในการทำ Digital Transformation ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนกว่า 50 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจที่ใช้งานกว่า 1,000+ ราย และมีพนักงานมากกว่า 130 คน นอกจากนี้ยังการันตีความเป็นมืออาชีพกับรางวัล Thailand ICT Awards ประจำปี 2019 และ 2022 รวมไปถึงรางวัล Bai Po Business Awards By Sasin #19 อีกด้วย

คุณจุติพันธุ์ อธิบายว่าแพลตฟอร์มของ Gofive แบ่งเป็น 3 หมวดหลัก ประกอบด้วย
1. People Platform เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยบริหารจัดการบุคลากร ตัวเด่นคือ empeo (รางวัล Thailand ICT Awards 2022) ซึ่งเราจะลงลึกในรายละเอียดเกี่ยวกับ HR Tech ต่อไป
2. CRM Platform เป็นแพลตฟอร์มบริหารทีมขาย พระเอกของแพลตฟอร์มนี้ คือ Venio เจ้าของรางวัล Thailand ICT Awards 2019
3. eTax Platform เป็นแพลตฟอร์มด้านการจัดการภาษีที่ใช้งานง่าย และครอบคลุมตามมาตรฐานของสรรพากร

สถานการณ์ HR Tech ของไทยในปัจจุบัน
คุณจุติพันธุ์กล่าวว่า เมื่อพูดถึงเรื่อง HR Tech กับธุรกิจในไทยถือว่าเป็นเรื่องน่าแปลกใจ เพราะบริษัทหลายแห่ง โดยเฉพาะ SME มักไม่นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ทั้งที่ซอฟต์แวร์เกี่ยวกับ HR มีมานานและยังพัฒนาเวอร์ชันใหม่ ๆ มาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ถึงแม้บางบริษัทจะนำเข้ามาใช้บ้าง แต่ก็เป็นรุ่นโบราณเก่าแก่ เช่น ระบบออฟไลน์ที่ใช้คำนวนเงินเดือนได้เพียงอย่างเดียว ไม่มีฟังก์ชันในการ Digital Transformation เลย ซึ่งเป็นระบบพื้นฐานมาก ๆ ทำให้ไม่ตอบโจทย์ในปัจจุบัน และก้าวไม่ทันยุคสมัย

คุณจุติพันธุ์ประเมินว่าบริษัทที่ใช้ซอฟต์แวร์ HR ในปัจจุบันมีประมาณ 60-70% ซึ่งก็เป็นธุรกิจขนาดกลางไปถึงขนาดใหญ่เป็นหลัก

แม้จะเป็นเรื่องน่าแปลกใจที่ธุรกิจไทยใช้ซอฟต์แวร์ HR กันน้อย แต่ก็เชื่อว่าในอนาคตจะมีการใช้งาน HR Tech สูงขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI เข้ามามีบทบาทมากขึ้น รวมทั้งปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ จะช่วยเป็นแรงผลัก ตัวอย่างที่ชัดเจน คือ กรณีเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งทุกคนถูกจำกัดบริเวณทำให้องค์กรธุรกิจต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการ Work From Home และใช้งานระบบ Cloud กันมากขึ้น เป็นต้น

อีกปัจจัยหนึ่งที่การใช้งานซอฟต์แวร์ HR หนักไปทางธุรกิจขนาดกลางถึงใหญ่ คือ เรื่องการลงทุน และจำนวนพนักงาน จึงไม่ค่อยเห็น SME ใช้งาน HR Tech มากนัก ประเด็นนี้คุณจุติพันธุ์ มองว่าหากมีการใช้ HR Tech มากขึ้นการพัฒนาก็จะหลากหลายตาม ส่งผลให้มีเวอร์ชันที่เหมาะกับ SME มากขึ้นด้วย และอนาคตเทคโนโลยี Cloud จะถูกพัฒนาอีกมาก ทำให้มีโซลูชั่นใหม่ ๆ เกิดขึ้นและราคาเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งอย่าว่าแต่ SME เลย ฟรีแลนซ์ทำงานอิสระก็สามารถเข้าถึงได้ เช่น โซลูชั่นออกใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษีบน Cloud เป็นต้น

ประโยชน์ของ HR Tech ในด้านต่าง ๆ ที่ผู้ประกอบการควรทราบ
ประโยชน์ของ HR Tech ไม่ใช่แค่ซอฟต์แวร์ที่นำมาช่วยงานฝ่ายทรัพยากรบุคคลเท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และเติบโตได้อย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล

คุณจุติพันธุ์อธิบายว่า งาน HR มีหลายมิติ โดยเปรียบเหมือนภูเขาน้ำแข็งที่หากมองแค่ที่ยอดก็จะเห็นเพียงคำว่า HR Operation แต่ลึกลงไปแล้วยังมีหน้าที่อีกมากมาย เช่น การสรรหาบุคคล การบริหารข้อมูลพนักงาน การจัดการกำลังคน เงินเดือนและสวัสดิการ ยิ่งไปกว่านั้น แต่ละมิติก็แยกย่อยลงไปอีกมากมาย ดังนั้นภาระของ HR จึงหนักอึ้ง จำเป็นที่ต้องนำซอฟต์แวร์เข้ามาช่วย เพื่อการทำงานที่ถูกต้อง คล่องตัว และแม่นยำ

ข้อดีของ HR Tech อีกอย่างในยุคปัจจุบัน คือ การมีฟีเจอร์ AI เข้ามาช่วย ทำให้ใช้งานง่าย สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา ปรับประยุกต์ได้หลายมิติ

พร้อมกันนี้คุณจุติพันธุ์ ได้ยกตัวอย่างงาน HR ในมิติรับสมัครพนักงานใหม่อย่างน่าสนใจว่า HR Tech จะอำนวยความสะดวกได้อย่างไร

ตัวอย่างคือ เมื่อนางสาว A กรอกข้อมูลสมัครงานผ่านแบบฟอร์มรับสมัครงานจากเว็บไซต์ ระบบ AI ก็จะตรวจสอบคุณสมบัติต่าง ๆ ทันที และหากตรงกับที่ต้องการ ระบบก็จะนัดให้สัมภาษณ์กับหัวหน้างานโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ระบบจะอัพเดตข้อมูลของนางสาว A อย่างเรียลไทม์เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องติดตามสถานะได้

ขั้นถัดไป เมื่อนางสาว A ผ่านการสัมภาษณ์แล้ว HR ก็สามารถเตรียมความพร้อมให้ได้ทันที โดยการกำหนดคอร์สต่าง ๆ ให้ฝึก ได้เรียนรู้ก่อนเริ่มงาน

พร้อมกันนี้ HR ก็จัดการมอบหน้าที่ให้นางสาว A ผ่านแพลตฟอร์มได้ทันที เมื่อถึงวันเริ่มงานวันแรก นางสาว A ก็เดินเข้ามาสแกนลายนิ้วมือ ตรวจสอบใบหน้า หรือลงเวลาเข้างานผ่านแอปพลิเคชัน เข้าไปทำงานตามแผนกได้อย่างสะดวก

มาถึงขั้นตอนการขอลางาน เปลี่ยนกะ เบิกสวัสดิการ ขอเอกสาร ก็ทำได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน หัวหน้างานสามารถอนุมัติได้ทันทีไม่ต้องมีเช็ควันลาคงเหลือ หรือขอเอกสารเพิ่มเติม เพราะในระบบแจ้งไว้ครบถ้วนแล้ว

ส่วนการจ่ายเงินเดือน HR ก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งคำนวนเอง เพราะระบบคำนวนให้หมดทุกอย่าง รวมทั้งส่งสลิปเงินเดือนผ่านมือถืออีกด้วย

นอกจากตัวอย่างนี้แล้ว คุณจุติพันธุ์เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีฟีเจอร์ใหม่ คือ Video Interview เป็นการให้ผู้สมัครแนะนำตัวเองผ่านคลิปวิดีโอประมาณ 1 – 2 นาที แล้วให้ AI ประเมินคุณสมบัติออกมา

และนี่เป็นเพียงตัวอย่างคร่าว ๆ ของระบบ HR Tech ที่มีชื่อว่า empeo

empeo โซลูชั่นที่ทำให้งาน HR เป็นเรื่องง่าย
มาถึงบรรทัดนี้ เชื่อว่าผู้อ่านคงมีความสนใจ HR Tech กันมากขึ้น เรามาดูกันต่อเถอะว่า นอกจากตัวอย่างที่ยกมาแล้ว ซอฟต์แวร์ยังมีความสามารถอะไรที่ทำให้ความซับซ้อนของงาน HR กลายเป็นเรื่องง่าย และความสามารถทั้งจากตัวอย่าง และที่จะกล่าวต่อทั้งหมดนั้น เป็นความสามารถของ empeo โซลูชั่นบริหารงานบุคคลครบวงจร ด้วยฟีเจอร์ที่ครบครันตอบโจทย์ HR ยุคใหม่ โดยรวมการทำงาน HR มาไว้ในระบบเดียวไม่ต้องใช้หลาย Platform อีกทั้งใช้งานง่าย เป็นระบบเปิด Open API สามารถเชื่อมต่อกับโปรแกรมอื่น ๆ เพื่อทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพได้ ครอบคลุมทั้ง HRM, HRD และ Employee Engagementโดยมีความสามารถดังนี้

1. Talent Acquisition การคัดสรรบุคลากร
สามารถช่วยในการสรรหาบุคลากร มีระบบ AI ที่ช่วยในการอ่านและกรองใบสมัคร พร้อมสรุปภาพรวมของผู้สมัครเพื่อการตัดสินใจในการจ้างงาน ระบบ Background Checker ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของ Candidate เพื่อให้ได้ทีมงานที่มีคุณภาพ และเมื่อผ่านการรับสมัครแล้ว ก็มีระบบที่ช่วยพนักงานให้เตรียมตัวก่อนเริ่มงานได้อีกด้วย

2. Employee Data การจัดการข้อมูลพนักงาน
HR สามารถดู โปรไฟล์พนักงาน โครงสร้างองค์กร สัญญาพนักงาน ปฏิทินการทำงาน ผ่านแดชบอร์ดโดยไม่ต้องเสียเวลาเรียกประชุม หรือค้นหาเอกสาร
นอกจากนี้ HR ยังสามารถดูรายงานเหล่านี้ของพนักงานได้อย่างสะดวกและรวดเร็วผ่านแพลตฟอร์ม ได้แก่ คำขอลาพักร้อน การขาด การลา การมาสาย การเบิกสวัสดิการ การเข้าร่วมงาน ตารางเวลา กิจกรรม Workflows ตารางงาน กะงาน ทรัพย์สินของพนักงาน เช่น กรณีที่เขาลาออกก็จะรู้ได้ว่าต้องคืนทรัพย์สินอะไรบ้าง รวมทั้งรายงานต่าง ๆ

3. Workforce Management การจัดการกำลังคน
HR สามารถวางกลยุทธ์และจัดการกำลังคนในองค์กรได้อย่างเป็นระบบ มองเห็นอัตรากำลังคนได้ในแบบองค์รวม และเห็นได้ในแต่ละแผนก สามารถร่างแผนกำหนดกำลังคนและขออนุมัติเพื่อปรับลด เพิ่ม แก้ไข โยกย้ายตำแหน่ง โยกย้ายหน่วยงาน โยกย้ายสายบังคับบัญชา และบริหารกำลังคนได้ครบทุกตำแหน่งในหน้าเดียว ช่วยในการปรับโครงสร้างองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นสายบังคับบัญชา รู้ว่าตำแหน่งไหนคนขาด ตำแหน่งไหนคนเกิน และตำแหน่งไหนที่ต้องหาคนมาทดแทนอย่างเร่งด่วน และนำข้อมูลที่ได้มาใช้ตัดสินใจเพื่อจ้างงานได้

4. Employee Self-Service
ช่วยให้พนักงานจัดการงานได้เอง พนักงานสามารถ Self Service ได้ โดยสามารถดำเนินเรื่องเองได้ผ่านมือถือ ไม่ว่าจะเป็นการขอลางาน ดู Directory ลงเวลางาน ทำเรื่องลดหย่อนภาษี ขอเอกสารรับรองเงินเดือน ฯลฯ โดยไม่ต้องมาคุยกับ HR สามารถทำเรื่องในระบบได้เลย ช่วยลดภาระงานของหัวหน้าได้มาก

5. People Development การพัฒนาบุคลากร
เป็นฟีเจอร์ด้าน HRD หรือการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่ครบครัน เพราะสามารถตั้ง KPI, OKR ได้ รวมทั้งประเมินประจำปีแบบ 360 องศา และกำหนดคอร์สต่าง ๆ ให้พนักงานเข้ามาเรียนรู้เพื่อเพิ่มทักษะ และแน่นอนว่ามีการเก็บประวัติการอบรมครบถ้วน

6. Payroll & Welfare เงินเดือนและสวัสดิการ
ระบบ Payroll ของ empeo เป็นการคิดเงินเดือนโดยเชื่อมโยงข้อมูลการทำงาน การขาด ลา มาสาย คำนวณสวัสดิการหลายเงื่อนไข คำนวณภาษีที่ซับซ้อน ให้โดยอัตโนมัติ ช่วยให้การคิดเงินเดือนจบได้ภายในไม่กี่คลิก รองรับรายได้พิเศษประเภทต่าง ๆ ทั้ง 40(1) 40(2) 40(5) 40(6) นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับโปรแกรมบัญชีโดยตรง และเมื่ออนุมัติเงินเดือนแล้ว ก็สามารถออกรายงานเพื่อทำจ่าย พร้อมกับส่งสลิปเงินเดือนเข้าอีเมลจองพนักงานให้ทันที

7. Employee Engagement การมีส่วนร่วมของพนักงาน
การส่งเสริมให้พนักงานมีสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน และมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อองค์กร เป็นสิ่งสำคัญของ HR เช่นกัน เพราะจะทำให้ดึงประสิทธิภาพการทำงานออกมาได้อย่างเต็มพลัง เกิดวัฒนธรรมการทำงานที่สร้างสรรค์ องค์กรขับเคลื่อนอย่างราบรื่น ฟีเจอร์ Employee Engagement ในโซลูชั่น empeo มีเสน่ห์อย่างยิ่ง เพราะมีระบบการทำงานที่คล้ายเล่นเกม
empeo จะชวนให้พนักงานเช็คความรู้สึกของตัวเอง พร้อมวางแผน ทบทวนเป้าหมาย และสรุปการทำงานประจำวันลงระบบ
ชวนให้แสดงความยินดี ชื่นชม หรือขอบคุณเพื่อนร่วมงาน
กำหนดภารกิจให้ทำ เพื่อสะสมเหรียญ แลกของรางวัล
เชิญชวนให้ร่วมแสดงความยินดีกับความสำเร็จของเพื่อน ๆ เพื่อส่งต่อความสำเร็จ
ชวนร่วมฉลองความยินดีในวาระต่าง ๆ ของเพื่อนร่วมงาน เช่น วันคล้ายวันเกิด การเลื่อนขั้น ฯลฯ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรร่วมกัน
เสนอข่าวสารเพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วม และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี

8. Off-boarding
พนักงานสามารถขอลาออกได้ผ่านออนไลน์ และระบบจะทำการส่ง Exit Interview ให้ทำ พร้อมกับที่หัวหน้างานสามารถเข้ามาดูผลของ Exit Interview รวมไปถึงการให้พนักงานคืนทรัพย์สิน คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก หน้าจอคอมพิวเตอร์ ได้อีกด้วย

จะเห็นได้ว่าโซลูชั่น empeo ครอบคลุมระบบงาน HR ทั้งหมด แต่ถ้าหากองค์กรใดต้องการ Implement ก็อย่าได้กังวลใจไป เพราะสามารถเลือกใช้งานในมิติที่เหมาะกับองค์กรของตัวเองได้

“ลูกค้าเรามีองค์กรตั้งแต่บริษัทเล็ก ๆ กระทั่งใหญ่ มีทั้งใช้งานแบบ Full Solution และเลือกเพียงมิติเดียว เช่น แค่มิติการทำเงินเดือน ซึ่งเรามีบริการหลากหลายแพ็คเกจ แล้วก็ตอบสนองทุกการเติบโตและตามความต้องการของแต่ละองค์กรครับ” คุณจุติพันธุ์กล่าว พร้อมแนะนำว่า empeo มีฟีเจอร์สำหรับ HR ค่อนข้างเยอะ ไม่จำเป็นต้องใช้ครบทั้งหมด แต่ให้เลือกใช้มิติที่เหมาะกับตัวเองที่สุดก่อน แล้วค่อย ๆ ขยายไปเรื่อย ๆ

empeo กับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
สำหรับผู้อ่านที่เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เกรงว่าจะรั่วไหลหากใช้ HR Tech เพราะข้อมูลหลักเกี่ยวพันกับบุคลากร ประเด็นนี้คุณจุติพันธุ์กล่าวว่า สำหรับ empeo ปลอดภัยแน่นอน เพราะ ISO/IEC 27701:2019 เป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเราในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเข้มงวดและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งลูกค้าที่ให้บริการด้าน Cyber Security ก็ใช้โซลูชั่น empeo เช่นกัน นอกจากนี้ทาง Gofive มีการทดสอบโจมตีระบบอย่างต่อเนื่องด้วย พร้อมทั้งเสิร์ฟบริการ Live Chat เพื่อให้คำปรึกษาตั้งแต่ 7.00 น. – 24.00 น. ทุกวัน

ความท้าทายในการ Implement ระบบ HR Tech
คุณจุติพันธุ์แบ่งความท้าทายของการ Implement หรือติดตั้งระบบ HR Tech ออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่

1. องค์กรที่ไม่เคยใช้ซอฟแวร์ HR ความท้าทายส่วนนี้ คือ ความเคยชินขององค์กรที่ใช้งาน manual มาโดยตลอด จึงคุ้นเคยกับการเกรงใจกัน คนนั้นหยวนคนนี้หยวน แต่เมื่อทำงานกับเทคโนโลยีต้องป้อนข้อมูลที่ถูกต้องตรงไปตรงมาเสมอ ความท้าทายจึงอยู่ที่ Mindset คือ การปรับความเข้าใจเรื่องเทคโนโลยี

นอกจากนี้คุณจุติพันธุ์ ยังเพิ่มเติมอีกว่า แม้จะนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้งาน แต่ ‘คน’ ก็ยังมีความสำคัญเสมอ โดยให้เหตุผลว่า ในกระบวนการทำงานของโซลูชั่นนั้นมีองค์ประกอบสำคัญ 3 อย่าง คือ คน เทคโนโลยี และกระบวนการ ซึ่งเทคโนโลยีนั้นเป็นเพียงองค์ประกอบ 1 ใน 3 เท่านั้น ที่เหลืออยู่ที่คน เพราะกระบวนการก็เกิดจากบุคลากร ดังนั้นความราบรื่นของการ Implement ระบบ HR Tech จึงต้องเริ่มที่คน

2. องค์กรที่เคยใช้ซอฟแวร์ HR สำหรับกลุ่มที่มีซอฟต์แวร์อยู่แล้ว คุณจุติพันธุ์มองว่า ความท้าทายอยู่ที่การเปิดใจรับระบบใหม่ ๆ ที่แตกต่างจากเดิม และการเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในการจัดการระบบเพื่อลดภาระของหัวหน้างาน

ทั้งนี้การใช้งานระบบดิจิทัลย่อมเกิดความเคยชิน เมื่อนำระบบใหม่เข้ามาย่อมคาดหวังว่าทำเหมือนเดิมแล้วจะดีกว่าเดิม แต่ในความเป็นจริงแล้วควรเรียนรู้ระบบใหม่ด้วย และที่สำคัญการจะ Implement ระบบใหม่เข้ามาควรดูเป็นจุด ๆ ว่าจุดไหนบ้างที่ต้องนำเข้ามาใช้

“การทำ Digital Transformation ที่ดี คือ การทำไปเรื่อย ๆ ครับ แต่บางครั้งผู้บริหาร หรือเจ้าของธุรกิจ ก็มักมีความคาดหวังว่า เอาระบบทุกอย่างมาหมดทีเดียวเลย ซึ่งไม่ถูก ผมแนะนำว่า ให้ทยอยทำไปเรื่อย ๆ แม้ต้องใช้เวลา แต่มันจะทำให้ทุกอย่างราบรื่น และเข้าที่เข้าทางอย่างยั่งยืน”

“แล้วยิ่งองค์กรเล็ก คุณมองว่าองค์กรฉันใช้พนักงานแค่ 20 คน 50 คนเอง ไม่เห็นจำเป็นต้องใช้ HR Tech เลย เอาจริง ๆ นะครับ ยิ่งเริ่มขนาดเล็กนั่นแหละจะยิ่งดี! เพราะว่าเป็นการวางรากฐานที่แข็งแรง เพราะถ้าจะมาแก้ตอนพนักงานหลายร้อยคน หรือหลักพันคน จะลำบากมาก” คุณจุติพันธุ์กล่าว

เป้าหมายในอนาคตของ Gofive
เมื่อถามถึงเป้าหมายในอนาคตของ Gofive และโซลูชั่น empeo คุณจุติพันธุ์ตอบว่า คือ การพัฒนาซอฟแวร์ให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ เพราะลูกค้ามีความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อให้ตรงกับเจตจำนงที่วางไว้ว่า ซอฟต์แวร์ต้องครบครันและดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งนอกจากบริการหลักแล้ว Gofive ไม่เพียงพัฒนาโซลูชันด้าน HR Tech แต่ยังมุ่งสร้างคลังความรู้เพื่อขับเคลื่อน Digital Transformation ในไทย
ผ่านบทความกว่า 100 ชิ้น วิดีโอกว่า 60 ชิ้น และกิจกรรม Onsite Training ที่จัดร่วมกับมหาวิทยาลัยพันธมิตร เพื่อแบ่งปันประสบการณ์เทคโนโลยีให้แก่นักศึกษา

จากการพูดคุยในครั้งนี้ ทำให้สรุปได้ว่า HR Tech มีประโยชน์ต่อองค์กรเป็นอย่างยิ่ง และปัจจุบันเข้าถึงง่ายเป็นอย่างมาก ท้ายนี้คุณจุติพันธุ์ ได้ฝากเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ HR ว่า หากย้อนกลับไปในอดีตเรื่อง HR Tech จะอยู่เฉพาะในบริษัทขนาดใหญ่ เพราะปัญหาเรื่องต้นทุน แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้ามาก มีซอฟต์แวร์ที่เข้าถึงได้ง่ายจำนวนมาก จึงถือเป็นโอกาสเหมาะของ SME อย่างยิ่ง เพราะหลายแพลตฟอร์มก็ให้เช่าเป็นรายปี ไม่ต้องซื้อขาด หรือหากใช้งานแล้วพบว่าไม่เหมาะกับองค์กรก็สามารถยกเลิกได้ทันที

สำหรับโซลูชั่น empeo นั้น นอกจากเลือกเฉพาะมิติที่ต้องใช้ได้แล้ว ยังมีแพ็คเกจให้ทดลองใช้ฟรี 30 วัน และแพ็คเกจสำหรับธุรกิจขนาดเล็กอีกด้วย

“เดี๋ยวนี้ SME มีโอกาสเข้าถึงซอฟต์แวร์ที่ทรงพลังได้ง่ายขึ้น แล้วราคาก็เข้าถึงได้ง่าย มีทั้งราคาที่นับตามจำนวนพนักงาน แล้วไม่ต้องลงเงินก้อนอย่างเมื่อก่อน ดังนั้นผมจึงมองว่า ถ้ายังไม่เริ่มต้นตอนนี้ ก็น่าเสียดายมาก เหมือนอย่างวันนี้ถ้าองค์กรไหนยังไม่เริ่มคิดเรื่อง AI ก็จะทำให้ล้าหลังออกไปนั่นเอง”

ช่องทางติดต่อ empeo
โทรศัพท์: 02-784-5855
อีเมล: hello@empeo.com
เว็บไซต์: www.empeo.com
Facebook Page: https://www.facebook.com/myempeo
LINE: @empeo (มี @)
Youtube: empeo channel

ช่องทางติดตาม Gofive
Facebook Page: www.facebook.com/GofiveFamily
เว็บไซต์: https://www.gofive.co.th
Youtube: Gofive channel

********