JRIT ICHI

กล่าวถึงเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยภายในองค์กร หรือสำนักงาน นั้นมีให้ใช้หลากหลายขึ้นอยู่กับหน้าที่ของขั้นตอนนั้น ๆ เช่น ระบบสแกนใบหน้า หรือลายนิ้วมือ เพื่อบันทึกเวลาเข้า – ออก งาน, บัตรพนักงานที่ต้องแตะกับประตูอัตโนมัติเพื่อเข้าพื้นที่งาน, แพลตฟอร์ม IoT ที่สามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า ตลอดจนเครื่องจักรจากระยะไกล และกล้องวงจรปิดเพื่อบันทึกภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปมากด้วย AI ขั้นตอนการรักษาความปปลอดภัยนี้สามารถมอบให้ กล้องวงจรปปิด หรือ CCTV รับจบได้เพียงอย่างเดียว

ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในปัจจุบัน ส่งผลให้กล้องวงจรปิดมีความเป็นอัจฉริยะมากขึ้น ไม่ใช่แค่บันทึกภาพรอไว้เปิดดูภายหลัง หรือดูผ่านออนไลน์ ส่งเสียงพูดคุยกันได้เท่านั้น แต่มันยังทำหน้าที่รักษาความปลอดภายในขั้นตอนต่าง ๆ ได้อีกด้วย

กล้องวงจรปิด สู่ AI Camera
เมื่อ CCTV ผสานกับ AI ความสามารถของมันก็ก้าวกระโดดในทันที โดยสามารถ…

1. สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งที่ผ่านเข้ามาในกล้อง คือ คน, สัตว์ หรือรถ สามารถตั้งค่าได้ว่าให้แจ้งเตือนเฉพาะมีคน หรือสัตว์เข้ามา เป็นต้น หรือแม้กระทั่งแสงสะท้อนจากแมลง หรือแมลงเรืองแสง ที่มักเกิดการหักเหของแสงจนกลายเป็นภาพลักษณะต่าง ๆ ระบบ AI ก็สามารถแยกแยะได้อย่างแม่นยำ

2. จดจำใบหน้า มันสามารถทำงานแทนระบบสแกนใบหน้า หรือสแกนนิ้วมือ ร่วมกับระบบ Access Control ได้สมบูรณ์แบบ เช่น ยืนยันตัวตนพนักงาน รวมทั้งบันทึกเวลางาน ไปจนกระทั่งแจ้งเตือนเมื่อบุคคลต้องห้าม (Blacklist) เดินเข้ามา นอกจากนี้ยังอ่านและจำป้ายทะเบียนรถได้อย่างแม่นยำ ทำให้สั่งการเปิดไม้กั้นประตูเข้าสำนักงานให้บุคคลที่ลงทะเบียนนำรถเข้าพื้นที่ได้ ลดขั้นตอนตรวจเอกสารได้มาก

3. ค้นหาบันทึกได้อย่างรวดเร็ว เมื่อจะค้นหาเหตุการณ์ใด ๆ ก็สามารถใช้คำสั่งง่าย ๆ ได้อย่างว่องไว เช่น ค้นหาบุคคลตามสีเสื้อ ณ วันที่เท่าไหร่ ตำแหน่งไหน พฤติกรรมอย่างไร เป็นต้น ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเลื่อนภาพดูทีละช็อตเหมือนในอดีต

4.คาดการเหตุการณ์ล่วงหน้า เช่น อาจมีมิจฉาชีพเข้ามาขโมยของในสำนักงาน กล้องวงจรปปิดอัจฉริยะก็จะแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เข้าไปตรวจสอบได้ล่วงหน้า เพราะระบบจะสังเกตจากพฤติกรรมน่าสงสัย เช่น เดินวนหลายรอบ, หันหน้ามองช่องทางเดินบ่อย ๆ เป็นต้น

จากความสามารถของกล้องวงจรปิดอัจฉริยะจะเห็นได้ว่า CCTV ที่ผสานกับ AI ระบบเดียวสามารถทำงานกับระบบอื่นได้อย่างลงตัว กรณีตัวอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้น คือ กล้องวงจรปิดอัจฉริยะที่ติดตั้งไว้ในเทศกาลสงกรานต์ถนนข้าวสาร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2568 ที่สามารถช่วยแจ้งจับผู้ร้ายตามหมายจับได้ถึง 2 ราย ช่วยส่งเสริมความปลอดภัยทั้งชีวิต และทรัพย์สินให้นักท่องเที่ยวได้ดีทีเดียว

ท้ายนี้แม้ในอนาคตกล้องวงจรปิดจะเข้ามารับหน้าที่รักษาความปลอดภัยในสำนักงานทั้งหมด แต่หัวใจหลักที่ขาดไม่ได้เลย คือ มนุษย์ อย่างไรเสียสิ่งที่ช่วยให้ AI ทำงานได้สมบูรณ์แบบ คือ คน ฉะนั้นจึงต้องส่งเสริมทั้งเทคโนโลยีและบุคลากรไปพร้อม ๆ กัน เพื่อความยั่งยืนที่แท้จริง

——————————————————————————————-

อ้างอิง
https://www.secom.co.th/articles/technology-help-security-guard
https://www.dailynews.co.th/news/4607263/
https://www.aeginc.co/what-is-ai-camera/