JRIT ICHI

ในอนาคตอันใกล้นี้ “หมอ AI” อาจกลายเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางในอวกาศอย่างแท้จริง เมื่อ Google และ NASA จับมือกันพัฒนาเทคโนโลยี “Crew Medical Officer–Digital Assistant” หรือผู้ช่วยแพทย์ดิจิทัลที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อช่วยดูแลสุขภาพของนักบินอวกาศในภารกิจระยะไกล ที่ไม่สามารถติดต่อกับทีมแพทย์บนโลกได้ทันที นี่คืออีกก้าวสำคัญของมนุษยชาติในการผสาน “AI + การแพทย์ + อวกาศ” เข้าด้วยกัน

การอยู่ในอวกาศเป็นเวลานาน ไม่เพียงเป็นเรื่องของแรงโน้มถ่วงต่ำ หรือสภาพแวดล้อมสุดขั้ว แต่ยังเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงทางสุขภาพที่ซับซ้อน เช่น การสูญเสียมวลกระดูก การเปลี่ยนแปลงของระบบไหลเวียนเลือด หรือปัญหาทางจิตใจจากการอยู่โดดเดี่ยวในที่จำกัด ซึ่งนักบินอวกาศจำเป็นต้องมีระบบดูแลสุขภาพที่รวดเร็ว แม่นยำ และไม่พึ่งพาการสื่อสารจากโลกมากนัก

AI ของ Google และ NASA จึงถูกฝึกด้วยคลังความรู้ทางการแพทย์ด้านอวกาศจำนวนมหาศาล ตั้งแต่วิธีวินิจฉัยโรคเฉพาะในสภาพไร้น้ำหนัก ไปจนถึงแนวทางการรักษาในกรณีฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นกลางภารกิจ เครื่องมือนี้สามารถ “พูดคุย วิเคราะห์อาการ และให้คำแนะนำเชิงขั้นตอน” แก่นักบินอวกาศได้แบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องรอคำตอบจากแพทย์ภาคพื้นดินที่อาจใช้เวลาหลายสิบนาทีหรือเป็นชั่วโมงในการส่งสัญญาณ

แต่สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือศักยภาพของเทคโนโลยีนี้บนโลกใบเดียวกัน หากระบบแพทย์อัจฉริยะสามารถทำงานได้แม่นยำในอวกาศ ซึ่งเป็นหนึ่งในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายที่สุด ก็ย่อมสามารถถูกประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ทางการแพทย์บนโลก เช่น การช่วยแพทย์ในพื้นที่ห่างไกล การสนับสนุนการวินิจฉัยในโรงพยาบาลที่มีบุคลากรจำกัด หรือแม้แต่การให้คำแนะนำเบื้องต้นแก่ผู้ป่วยที่อยู่คนเดียว

ในระยะยาว การพัฒนา “หมอ AI” ไม่ได้หมายถึงการแทนที่แพทย์ แต่คือการสร้าง “คู่หูอัจฉริยะ” ที่ช่วยยกระดับการตัดสินใจทางการแพทย์ให้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ไม่อาจรอได้ เช่น บนสถานีอวกาศ ดาวอังคาร หรือแม้แต่ในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลในอนาคต

ความร่วมมือระหว่าง Google และ NASA จึงไม่ใช่เพียงการทดลองทางเทคโนโลยี แต่คือการปูทางสู่อนาคตที่ “AI ไม่ได้แค่ช่วยมนุษย์รักษาชีวิตในอวกาศ แต่ยังช่วยรักษาชีวิตบนโลก” ได้อย่างเท่าเทียมกัน จุดเริ่มต้นของการแพทย์อัตโนมัติ ที่อาจเปลี่ยนคำจำกัดความของคำว่า “หมอ” ไปตลอดกาล

ผู้เขียน: ก้องปพัฒน์ กำจรจรุงวิทย์